+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บทสรุป

ในการสร้างสรรค์ศิลปนิพนธ์ของข้าพเจ้าชุดนี้ นับว่าเป็นความสำเร็จที่ทุกคนปรารถนา และข้าพเจ้าก็มีความรู้สึกพอใจต่อกระบวนการสร้างสรรค์นั้นๆด้วย ไม่ว่าจะด้านพื้นฐานความคิด อิทธิพล แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ขั้นตอนการประมวลความคิด องค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุต่างๆ ตลอดจนเทคนิควิธีการ ทั้งหมดนี้ทำเพื่อรองรับรูปแบบและแนวความคิด จากจินตนาการภายใน ให้แสดงออกมาเป็นรูปธรรมมากที่สุด เพื่อที่จะสื่อสารอารมณ์ความรู้สึก แนวความคิดของผู้สร้าง ที่ต้องการถ่ายทอดให้ผู้อื่นรับรู้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการกลมเกลาจิตของผู้สร้างแล้ว ก็หวังว่าผลที่ได้จากการสร้างสรรค์ศิลปะนี้ จะมีส่วนช่วยกลมเกลาจิตใจของผู้อื่นได้ไม่มากก็น้อย เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ทางด้านสุนทรียศาสตร์ เพื่อการรับรู้และเข้าใจร่วมกัน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาวงการศิลปะต่อไป
ข้าพเจ้ายอมรับว่า กว่าที่จะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะให้ออกมานั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย กระบวนการศึกษาศิลปะ ก็นับว่าสำคัญซึ่งเป็นทางที่จะให้เข้าใจถึงกระบวนการสร้างสรรค์ได้เร็วขึ้น และมีระบบความคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตลอดจนเทคนิควิธีการที่ได้เรียนรู้ และนำมาถ่ายทอดผลงานศิลปะเหล่านี้
เมื่อก่อนข้าพเจ้าคิดว่าการสร้างสรรค์ศิลปะก็คือการทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ จะวาดรูปหรือใช้สีอย่างไรก็ได้ ไม่จำกัด แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นหลังจากเริ่มเรียน แล้วเริ่มมีการตรวจภาพร่างผลงาน มีการสอบถามถึงที่มา เนื้อหาและเรื่องราว และแนวความคิดต่างๆ และก็จบลงด้วยคำถามที่ว่า ทำไปเพื่ออะไร? ทำสิ่งนี้แล้วจะได้ผลสิ่งใดขึ้นมา? สิ่งเหล่านี้ค่อยๆหล่อหลอม และซึมซับอยู่ในระบบความคิดของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ได้นำระบบความคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตด้วย การซักไซร้กับตนเอง การทบทวน ประมวลความคิด กระทั่งกลั่นกรองออกมา ในการตัดสินใจและกระทำสิ่งต่างๆนั้น ทำให้มองเห็นว่าศิลปะ แม้จะอยู่ในส่วนของจินตนาการแต่ในกระบวนการสร้างสรรค์จะต้องเป็นเหตุเป็นผล มีที่มา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากระบบความคิดที่การศึกษาได้มอบให้นั่นเอง
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสร้างศิลปนิพนธ์ตามโครงการชื่อ "ฉันและพื้นที่ของฉัน" นี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะกระตุ้นให้ผู้คนหันมาทบทวนชีวิตภายใต้สิ่งแวดล้อมมทางวัตถุของตนเองมากขึ้น ได้รู้จักตระหนักถึงโลกของจินตนาการความคิดฝัน ไม่ให้ความสำคัญกับโลกวัตถุจนเกินไป ได้รู้จักมีเวลาเพียงพอที่จะสำรวจตรวจสอบตัวตนภายในของตนเอง เพียงเท่านี้ก็เป็นความสำเร็จส่วนหนึ่งของศิลปนิพนธ์ชุดนี้ของข้าพเจ้า

บรรณานุกรม

- ฟรอมน์,อีริค. The Art of Loving "รัก" : แปลและเรียบเรียงโดย ช. เขียวพุ่มพวง และอาคเนย์
- ปราชญ์เหลาจื๊อ. คัมภีร์เต๋าเต็กเก็ง บทที่1
- คาลิล ยิบลาน. The Prophet ปรัชญาชีวิต : ถอดความโดย ระวี ภาวิไล ,( กรุงเทพ: สำนักพิมพ์ผีเสื้อ) หน้า 50
- ชะวัชชัย ภาติณธุ. ศิลปะศิลปินหรือศิลปินศิลปะ (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ , 2532) , หน้า 64.
- ชลูด นิ่มเสมอ. องค์ประกอบของศิลปะ (กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพาณิชย์, 2539), หน้า 213.

+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

บทสรุป
2002 copyright by myARTery